บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

การเตรียมจิตวิญญาณ



ข้อความเป็นดังนี้

การเตรียมจิตวิญญาณ
1. ชำระกรรมให้เบาบางโดย หยุดโลภ โกรธ หลง ทำจิตใจให้สงบเบิกบาน เพราะวันนั้น จะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะเสียงที่ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก
ดังนั้น ต้องฝึกฝนการปล่อยวางตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ค่อยๆปล่อยวางวันละเรื่อง สองเรื่อง พยายามทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้มาก
2. มีสำนึกทางจิตวิญญาณ
3. ฝึกการละวางในสิ่งที่มิใช่อริยทรัพย์
4. ฝึกการมีสติรู้ตัวตลอดเวลา
5. ฝึกการทำโฆษกรรม ขออภัยต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือ ผู้ที่เราล่วงละเมิดแก่เรา

การปฏิบัติตนในขณะเกิดมหันตภัย
1. ได้ยินเสียงใด ให้ละวางสิ่งนั้น รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น ต้องไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่า จะได้ยินเสียง คนข้างบ้านร้อง เพราะกำลังจะตายหรือ ได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว
ต้องได้ยินแล้วปล่อยผ่านเลยไป หากละวางไม่ได้จะเกิดอาการ ตายก่อนตาย” (มีความทุกข์ทรมานมากยิ่งกว่าตายไปแล้ว)
2. ยอมรับให้ได้ ต่อเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติกำกับการคิด การพูด และ การกระทำ ตลอดเวลา
3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้มีความกลัวมากขึ้น ควรทำกรรมฐานหากฝึกได้มโนมยิทธิ หรือ ได้อภิญญา หรือ ได้อารมณ์ที่เป็นฌาน สามารถไปพักที่สวรรค์ หรือ พรหมชั้นหนึ่งชั้นใดก่อนได้
จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย หรือ หากิจกรรมอื่นทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวกเกิดความอิ่มเอิบ เป็นต้น
4. สังเกตดูธรรมชาติ หรือ สัตว์ต่างๆ ซึ่งจะแสดงสัญชาตญาณ ให้เราทราบก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น

คำวิพากษ์วิจารณ์

ข้อความวกวนสับสน มั่ว จนไม่รู้ว่าจะวิพากษ์วิจารณ์ส่วนไหนก่อน ขอเลือกเป็นบางส่วนก็แล้วกัน

ข้อความนี้

1. ชำระกรรมให้เบาบางโดย หยุดโลภ โกรธ หลง ทำจิตใจให้สงบเบิกบาน เพราะวันนั้น จะมีผู้ที่เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะเสียงที่ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก

ดังนั้น ต้องฝึกฝนการปล่อยวางตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ค่อยๆ ปล่อยวางวันละเรื่อง สองเรื่อง พยายามทำจิตให้เป็นบวก จะช่วยได้มาก


ผมก็เพิ่งรู้ว่า มีคนโง่ที่เชื่อว่า “เสียงที่ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองให้แตก พวกที่เส้นโลหิตในสมองแตกนั้น ไม่ได้เกิดจากเสียงดัง

แต่เกิดจากความเครียด เมื่อมากเข้าๆ หยุดคิดไม่ได้ เส้นโลหิตในสมองจึงแตก

สำหรับเสียงดังนั้น จะ “หูแตก”  คือ ประสิทธิภาพการได้ยินจะหมดไป หูก็จะไม่ได้ยิน

แล้วไอ้การจะมีคนตายมาก เพราะ เส้นโลหิตในสมองแตก มันจะไปเกี่ยวกับชำระกรรมให้เบาบางโดยหยุด โลภ โกรธ หลงตรงไหน  มั่วไปได้เรื่อยๆ

ข้อความนี้

1. ได้ยินเสียงใด ให้ละวางสิ่งนั้น รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น ต้องไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่า จะได้ยินเสียง คนข้างบ้านร้อง เพราะกำลังจะตายหรือ ได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว

ต้องได้ยินแล้วปล่อยผ่านเลยไป หากละวางไม่ได้จะเกิดอาการ ตายก่อนตาย” (มีความทุกข์ทรมานมากยิ่งกว่าตายไปแล้ว)

แนะนำมั่วๆ แบบนี้  ได้ยินเสียงร้องให้คนช่วย เราก็ต้องไปช่วยเขา ยกเว้นว่า ช่วยไม่ได้ ก็ต้องถือ “อุเบกขา” เพราะ ช่วยกันไม่ได้ 

แนะนำ “ห่า” อะไร ให้ปล่อยวางบ้าๆ บอๆ แบบนั้น  แล้วไอ้อาการ “ตายก่อนตาย” มันเป็นยังไง คนเขียนมารู้หรือเปล่าก็ไม่รู้

หรือคนเขียนคำทำนายนี้ มันกำลัง “ตายก่อนตาย” โดยไม่รู้ตัวก็ไม่อาจจะรู้ได้

ข้อความนี้

3. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้มีความกลัวมากขึ้น

ควรทำกรรมฐานหากฝึกได้มโนมยิทธิ หรือ ได้อภิญญา หรือ ได้อารมณ์ที่เป็นฌาน สามารถไปพักที่สวรรค์ หรือ พรหมชั้นหนึ่งชั้นใดก่อนได้

จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย หรือ หากิจกรรมอื่นทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวกเกิดความอิ่มเอิบ เป็นต้น

ยิ่งอ่านก็ยิ่งมั่ว  มันจะทำได้ยังไง พอเกิดเหตุการณ์ที่ว่าขึ้น ให้เอากายเนื้อขึ้นไปอยู่สวรรค์หรือพรหมก่อน  พอเหตุการณ์สงบแล้วก็ลงมาหรือไง

สมองหมา ปัญญาควายจริงๆ

ที่ประหลาดมากก็คือ การอุบัติภัยอย่างมโหฬาร คนตายกันทั้งโลก อาหารก็ไม่มีจะกิน ดันเสือกแนะนำว่า “หากิจกรรมอื่นทำ เช่น อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวกเกิดความอิ่มเอิบ เป็นต้น

คนจะตายกันทั้งโลกอยู่แล้ว ดันเสือกแนะนำให้หากิจกรรมที่ทำให้จิตเป็นบวก ทำไมไม่แนะนำให้เปิดคอนเสิรต์เสียเลย..



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น