หลังจากปรากฏการณ์เด็กชายปลาบู่ซบเซาลงไป เพราะ เขื่อนภูมิพลไม่พัง
แต่วาทกรรมข่าวลือเกี่ยวกับอุบัติภัยใหญ่โตมโหฬารกลับไม่ซบเซาไปตามปรากฏการณ์เด็กชายปลาบู่
มีผู้ขุดคุ้ย แต่งเรื่องเสริมเติมต่อมาอีกมากมายหลายประการ
“พุทธทำนาย”
ก็ถูกนำมาเล่นกันอีกครั้งหนึ่ง
มีทั้งพระ ทั้งฆราวาสมาร่วมเล่นกับเรื่องนี้กันมากมาย
มีทั้งพิมพ์หนังสือออกมาแจกจ่าย และมีการเผยแพร่กันในสื่อออนไลน์กันอย่างดาษดื่น
เรื่องราวทั้งหลายส่วนใหญ่แล้วก็เป็นการลอกกันไป ลอกกันมา
ตามปรกติของเว็บในประเทศไทย ซึ่งมีการศึกษาที่เน้น “การจำ”
อย่างเดียว
ประเทศไทยจึงอุดมสมบูรณ์ไปด้วย พวก “โง่แต่จำแม่น”
พวกโง่แล้วจำแม่นนี้
ทำความฉิบหายวายป่วงให้กับประเทศไทยมานักต่อนักแล้ว เพราะ คนในสังคมและตัวเขาเอง
คิดว่าพวกนี้ฉลาด
แต่จริงๆ แล้ว พวกนี้มัน “โง่” แต่บังเอิญ มันเสือกจำแม่นเท่านั้น
เมื่อไปทำหน้าที่บริหารงาน ไม่ว่าจะระดับไหน
ก็จึงทำความฉิบหายให้ทั้งหน่วยงานและประเทศชาติ
แทนที่จะก้าวหน้าไปมากกว่านี้ ก็หยุดๆ ก้าวๆ หยุดๆ ก้าวๆ
ข้อมูลที่จะนำมาวิพากษ์วิจารณ์นี้ ผมขอยกตัวอย่างจากเว็บ http://www.yantip.com/board/viewthread.php?tid=11470
เนื่องจากเห็นว่า เอาข้อมูลลงไว้เป็นส่วนๆ
สะดวกต่อการนำมาวิพากษ์วิจารณ์กัน
ส่วนแรกที่จะนำมาวิพากษ์วิจารณ์กันพอหอมปากหอมคอก็คือ
หัวข้อ “พุทธทํานาย 2012 ถอดรหัสพุทธทํานาย และ การเตรียมตัว"
ข้อความก็มีดังนี้
“อานันทะ ดูก่อนอานนท์
หลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว
โลกจะมีอันตรายที่ร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมากนัก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน
ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ
สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่ง จึงเลิกรากัน
สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก” พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ได้ถึง 5000 ปี
ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้น
คนไทยจะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้นในเมื่อเห็นการสูญเสีย
เห็นความตายเกิดขึ้น
ความทุกข์ก็เกิดขึ้น จิตใจก็เริ่มเป็นกุศลมากขึ้น
เวลานั้นบรรดาพุทธศาสนิกชน ก็จะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น เพราะกลัวตาย
สำหรับท่านนักปฏิบัติ ที่เจริญกรรมฐาน ก็จะเร่งรัดตัวเอง
กำลังใจก็จะมีสมาธิ ในที่สุดมโนมยิทธิ และ/หรืออภิญญาก็จะเกิด
ในเมื่อมโนมยิทธิ และ/หรืออภิญญาเกิด
ก็จะเอามาช่วยบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให้มีความเข้าใจที่ชัดเจน มีความสุข
มีความปลอดภัย
ขอให้ทุกท่านปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ให้ไว้
คือ
1. ให้มีสังคหวัตุ 4 ได้แก่
1.1 ทาน
การให้ ให้มีการสงเคราะห์ซึ่งกันและกัน สร้างความรักเข้าไว้ อย่าสร้างศัตรู
1.2 ปิยวาจา พูดดี
พูดให้คนที่รับฟังมีความสุข เขาจะรักเรา เราก็มีความสุข
1.3 อัตถจริยา
ช่วยเหลือการงานซึ่งกันและกัน
1.4 สมานัตตตา
ไม่ถือตัว ไม่ถือตน
2. พรหมวิหาร 4 ได้แก่
2.1 เมตตา
ให้มีความรักความปรารถนาดีให้ผู้อื่นสัตว์อื่นมีความสุข
2.2 กรุณา
ความสงสารความปรารถนาดีให้ผู้อื่นสัตว์อื่นพ้นจากความทุกข์
2.3 มุทิตา
มีจิตอ่อนโยน เห็นใครได้ดีมีความสำเร็จ ก็ยินดีด้วย
2.4 อุเบกขา วางเฉยเมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้น
ไม่ดิ้นรน ยอมรับตามความเป็นจริง ต้องไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต
จงทรงจิตของท่านให้มีความมั่นคงในคุณพระรัตนตรัย 3 ประการ คือ
คุณพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้มีจิตยึด พระพุทธคุณ ให้ภาวนาว่า “พุทโธ”
ก่อนจะหลับ ให้กำหนดการเข้าออกของลมหายใจ หายใจเข้านึกคำว่า “พุท” หายใจออกนึกคำว่า“โธ”
และเวลาตื่นนอนใหม่ๆ ทำแบบนี้เป็นปกติ เวลาที่ยังตื่นอยู่
ถ้าคิดขึ้นมาได้เมื่อไร
ก็ทำใจให้นึกถึงความดีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ภาวนาว่า “พุทโธ” เป็นปกติ
อย่างนี้ได้ชื่อว่า เป็นผู้เข้าถึงไตรสรณคมน์ พุทธรัตน ธรรมรัตน และสังฆรัตนทั้ง
3 ประการ
จิตของท่านจะทรงสมาธิ อำนาจบารมีของพระพุทธเจ้า
จะทำจิตใจของท่านให้เยือกเย็น มีความสุข อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย
ก็จะพ้นภัยด้วยอำนาจของพระพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ และ สังฆานุภาพ
ถ้าจิตของเรา ไม่นิยมในขันธ์ 5 หรือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร
และวิญญาณ ตัวเราแท้จริง ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราควบคุมไม่ให้แก่ ไม่ให้เจ็บ –ไม่ให้ปวด ไม่ให้ตาย ไม่ได้
ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว ย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลง และในที่สุดก็แตกดับ
เป็นสามัญลักษณะ
เราเบื่อกายสังขารแล้ว เราไม่ต้องการอีกแล้ว
จิตเราขอเกาะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
พระองค์อยู่ที่ไหนเราจะไปที่นั่นท่านะพ้นจากกิเลส จะเข้าถึงพระนิพพานได้ เช่น
ทำการสวดมนต์ว่า
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธธัสสะ (3 จบ)
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธัมมเจ้าเป็นที่พึ่ง
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆเจ้าเป็นที่พึ่ง
จากนั้น ตามด้วยบท อิติปิโส ภควา อรหังสัมมา… สวากขาโต ภควา...สุปฏิปัญโน ภควา…
แล้วก็ภาวนาว่า “พุทโธ” ก่อนจะหลับทุกคืน
ให้กำหนดการเข้าออกของลมหายใจ หายใจเข้านึกคำว่า “พุท” หายใจออกนึกคำว่า “โธ”
และ เวลาตื่นนอนใหม่ๆทุกวัน ให้ทำแบบนี้เป็นปกติ
เวลาที่ยังตื่นอยู่
ถ้าคิดขึ้นมาได้เมื่อไร
ก็ทำใจให้นึกถึงความดีขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า “พุทโธ” เป็นปกติ ชีวิตท่านจะรอดและปลอดภัย
|
ขอยืนยัน นั่งยัน นอนยันว่า ข้อความที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้นนั้น
ไม่ใช่ “พุทธทำนาย” ของพระพุทธเจ้า
เป็นการแต่งขึ้นภายหลัง
ใครเป็นต้นแหล่งก็ไม่รู้
พวกก็เอามาแต่งเติมเสริมต่อ
แล้วก็อ้างกันว่าเป็นคำทำนายของพระพุทธองค์ เพราะจะทำให้ข้อความน่าเชื่อถือ
ข้อวิพากษ์วิจารณ์เป็นบางส่วนไว้ก่อนว่าที่ว่า
สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก” พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ได้ถึง 5,000 ปี”
|
อันนี้ไม่เป็นความจริง
ตราบที่ยังมีการเล่าเรียนปฏิบัติธรรมกันอยู่ ก็ยังมีศาสนาพุทธอยู่
และในฐานะที่เป็นศิษย์ของคุณลุงการุณย์ก็ขอประกาศให้ทราบว่า
ศาสนาพุทธจะเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นต่อไปข้างหน้า
เพราะมีการเปลี่ยนแปลงศาสนาในสาระสำคัญหลายประการ ต่อจากนี้ไป ศาสนาพุทธจะไม่เรียวลง
และหมดไปอย่างที่คำทำนายมั่วๆ นั้นทำนายออกมา..
ผมเห็นด้วยกับคำว่า "โง่แต่จำแม่น" ที่ดร. เขียนนะครับ .. แต่ผมก็อยากจะเพิ่มอีกคำเหมือนกัน .. "โง่แต่ขยัน" .. ดร.คิดว่า คนไทยเป็นอย่างนี้ด้วยไหมครับ? (ขยันส่งแชร์คำทำนายกัน)
ตอบลบผมชอบอันนี้ครับ ...
ลบโบราณได้สอนในเรื่องคุณภาพของคน แบ่งออกได้ 4 ประเภท คือ ประเภทฉลาดและขยัน ประเภทฉลาดแต่ขี้เกียจ ประเภทโง่และขี้เกียจ และประเภทโง่แต่ขยัน แต่ละประเภทเหมาะแก่การใช้งานดังต่อไปนี้
ประเภทฉลาดและขยัน เขาบอกว่า ให้เลี้ยงไว้ ถ้าส่งเสริมให้ดีแล้วต่อไปภายภาคหน้าจะได้เป็นเจ้าคนนายคน เป็นหัวหน้าหน่วยงานที่มีประสิทธิภาพ ใช้เป็นแม่ทัพได้
ประเภทฉลาดแต่ขี้เกียจ เขาบอกว่า ไม่เป็นไร ให้ทำงานในเรื่องที่เกี่ยวกับหัวคิด หรือวางแผน จะเหมาะที่สุด ถ้าเป็นทหารก็ให้เป็นทหารฝ่ายเสนาธิการ
ประเภทโง่และขี้เกียจ เขาบอกว่า ก็ไม่เป็นไรอีก เพียงแต่ต้องคอยจับตาดูหรือคอยแนะนำให้ทำตามเท่านั้น ปล่อยให้ทำเองไม่ได้ ถ้าเป็นทหารก็เป็นได้แค่พลทหาร มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่ง
ประเภทโง่แต่ขยัน พวกนี้เป็นพวกที่เขาบอกว่า “มีอันตราย” ไม่ว่าจะให้อยู่ในตำแหน่งหน้าที่ใด ก็ก่อความวุ่นวายเดือดร้อนได้ง่าย
พวกที่จัดอยู่ในประเภทหลังนี้ เลี้ยงไว้ไม่เป็นประโยชน์อะไรต่อหน่วยงานหรือสังคม ควรกำจัดทิ้งให้หมด
หลายคนสงสัยว่า ทำไมต้องกำจัดทิ้ง ซึ่งความขยันเป็นสิ่งดี แต่ถ้าอยู่กับคนไม่ฉลาด หรือคนโง่แล้ว ความขยันที่ว่านี้จะกลายเป็นสิ่งไม่ดีไป เพราะความขยันจะถูกใช้ไปในทางที่โง่ๆ นอกจากจะไม่เกิดประโยชน์อะไรแล้ว บางครั้งก็เกิดความเสียหายขึ้นได้ แม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม
ใช่... ขยันในเรื่องที่ไม่ควรทำ
ตอบลบขอบคุณครับ ได้ข้อคิดที่มีประโยชน์มากมายครับ ทุกวันนี้เห็นเยอะมากครับ รู้มาก แต่รู้ไม่จริง เหมือนจะฉลาด..แต่โง่ เชื่อมันทุกเรื่อง ! เชื่อเพราะอะไรก็ไม่รู้
ตอบลบถ้าเป็นเรื่องจริง มีใครกล้าออกมาบอกมั้งว่า อยู่ในพระไตรปิฏก เล่มไหน บทเท่าไร
ตอบลบถ้าค้นเจอ ถึงควรเชื่อ
คนไทยเราชอบ เชื่อ โดยไม่ไตร่ตรอง
ศาสนาพุทธจะเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญไม่ได้หรอกครับเพราะว่าศาสนาพุทธนำเอาคามจริงของสัพพสัตว์มาพูดมาสอน เช่นการเกิดแก่ เจ็บ ตาย มันเป็นความจริง ใครเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แม้พระพุทธองค์ก็ไม่อาจฝืนครับ
ตอบลบพระพุทธศาสนาจะอยู่ได้ 5,000 ปี คับ พระพุทธเจ้าบัญญัติอย่างนั้น ถ้าอยู่ได้ถาวรพระศรีอรินเมตไตรจะบังเกิดขึ้นได้อย่างไร อย่าเข้าใจผิดน่ะคับ เพราะยุคของพระพุทธเจ้าเราองค์ปัจจุบันนี้ มีอายุ 5000 ปี หลังจากที่หมดยุคของพระพุทธเจ้าเราไปแล้วจะเป็นยุคของพระศรีอริยเมตไตรมาแทน ยุคพระศรีอริยเมตไตรสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธศาสนาในยุคนั้นจะมีอายุ 2 แสนปี มนุษย์จะมีอายขัยอย่างน้อย 8 หมื่นปี สัตว์จะพูดภาษามนุษย์ได้ทุกสิ่งในยุคนั้นจะมีความศิวิไลน์มาก เหตุผลที่เมืองไทยจะได้รับภัยพิบัติน้อยกว่าชาติอื่นนั้น มันหมายถึง ไม่ว่าไืทยหรือชาติไหนที่สถานที่แห่งนั้นมีการปฏิบัติธรรมมีพุทธศาสนาค้ำจุนอยู่ ดวงแก้วของพุทธศาสนาจะคุ้มครองไม่ให้เกิดความรุนแรงเหมือนกับที่อื่น แต่ไม่ได้หมายถึงไม่ได้รับผลกระทบใดๆ เลย นี่แหละคือพระไตรฏิฎก
ตอบลบพุทธทำนาย” อยู่ในอรรถกถาพระไตรปิฎก มหาสุบินนิมิตชาดก เอกนิบาตชาดก ขุททกนิกาย น่ะคับ
ลบแต่ผมเชื่อพระพุทธเจ้าที่พระองค์ทรงตรัสว่าศาสนาเราจะอยู่ได้ 5000 ปี ลองคิดดูสิครับว่าภาวะศีลธรรมของคนในโลกปัจจุบันนี้เอื้ออำนวยที่จะทำให้พุทธศาสนาดำรงคงอยู่ถึง 5000 ปีหรือไม่ คำตอบคือ ''ไม่'' ผมว่าถ้าศีลธรรมของคนยังตกต่ำอยู่อย่างนี้อีกไม่เกิน 100 ปี ศาสนาพุทธหายจากโลกนี้แน่ๆ
ตอบลบฉะนั้นโดยอำนาจกรรมชั่วของพวกเขาก็จะทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ฆ่าล้างพวกที่ไม่มีศีลธรรมไห้ตายกันไปให้หมดเหลือแต่คนที่มีศีลธรรมใว้เพื่อจะสืบต่อพระพุทธศาสนาให้อยู่ถึง 5000 ปี ต่อไป
ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มองเห็นความวุ่นว่ายในโลกมานานแล้ว ทั้งความขัดแย้งในประเทศต่างๆและความขัดแย้งระหว่างประเทศ จนทำไห้เกิดสงครามโลกถึง 2 ครั้ง USA จึงได้สร้างอาวุธ HAARP ขึ้นมาเพื่อจะรวมโลกนี้ให้เป็นหนึ่งเดียวโดยการฆ่าให้หมดทั้งโลกเหลือไว้บางส่วนแล้วคนที่เหลืออยู่ก็เริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ ผมว่าวิธีนี้ก็ดีนะในเมื่อมันหมดหนทางแล้วจริงๆที่จะทำให้คนทั้งโลกนี้อยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขและเท่าเทียมกันได้อย่างแท้จริง
หาใน google ว่า HAARP คืออะไร
เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรกรรมย่อมระงับด้วยการไม่ก่อกรรมพุทธรรมสอนไว้ดูก่อนแม้แต่ จอห์น เลนนอน ก็ยังร้องเพลง imagine จินตนาการว่ามวลมนุษย์จะอยู่กันอย่างสันติ
ตอบลบศีลธรรมค้ำจุนโลก
ถึงเวลาแล้วที่โลกจะรีสตาร์ทตัวเองปรับสมดุลธรรมชาติกับมนุษย์ให้สมดุลกันตามคำทำนายของชนเผ่ามายา ชนเผ่ามายาไม่ได้บอกว่าโลกจะแตกหรือดับสูญนะครับบอกแต่เพียงว่าจะเกิดการปรับสมดุลธรรมชาติกับมนุษย์ ทุกวันนี้จำนวนมนุษย์และสิ่งที่มนุษย์ทำต่อโลกมีมากเกินกว่าที่ธรรมชาติจะรับได้แล้ว การที่จะทำให้มันสมดุลกันก็ต้องลดจำนวนมนุษย์ลงจนอยู่ในระดับที่ธรรมชาติรับได้ การที่จะลดจำนวนมนุษย์ลงตามวิธีของธรรมชาติก็คือ ฆ่าให้ตาย โดยภัยพิบัติ
แนะนำทุกท่าน ให้ศึกษา, อ่านพุทธววจนให้มากๆ ครับว่ามีข้อความอย่างนั้นหรือไม่ ลองแยกข้อความในพระไตรปิฎกดูนะครับ จะมีส่วนของอรรถกถา และพุทธวจนอยู่ครับ แต่ส่วนตัวผมจะสนใจแต่พุทธวจนอย่างเดียว เพราะเป็นคำพูดที่ออกมาจากปากของพระพุทธเจ้าเอง ถูกต้องตามจริงดังที่พระองค์ตรัสไว้
ตอบลบลองอ่านดูนะครับ
แล้วพระอรหันตสาวกนี่สอนไม่ถูกหรือ?
ลบแล้วพระอรหันตสาวกนี่สอนไม่ถูกหรือ?
ลบเกือบอ่านไม่จบแล้ว ทีหลังท่านเอาคำวิจารย์ ไปไว้ต้นๆเลยนะครับ
ตอบลบบางคนอ่านครึ่งๆกลางๆแล้วก็เชื่อกันง่ายมากเลย
ส่วนใหญ่ ผมจะเขียนเนื้อหาหน่อยหนึ่ง แล้วก็วิจารณ์เลย
ตอบลบแต่บางที มันก็ต้องปล่อยเนื้อหายาวๆ ก่อน ถึงวิจารณ์
อย่างไรก็ดี ข้อแนะนำของคุณก็มีประโยชน์ คือ ผมจะเขียนวิจารณ์เป็นบทนำคร่าวๆ ก่อน
แล้วค่อยเขียนเนื้อหา
จิตเป็นที่ตั้ง ทุกอย่างเป็นอนิจจัง อนัตตา
ตอบลบจะอยู่ถึง๕๐๐๐ปีหรือไม่อยู่ที่ยังมีคนนับถือหากไม่มีก็จะหมดไปก่อนหน้านั้น ทุกวันนี้ก็เหมือนกลียุคแค่เห็นหน้าก็จะฆ่าจะแกงกัน
ตอบลบถึงจะจิงหรือไม่จิง ก็เป็นเรื่องที่ดีให้มันกลัวกันซะบ้างเเล้วคุณรู้ได้งัยว่ามันไม่จิง
ตอบลบถ้าลองจินตะนากาลดูน่าจะเป็นเรือ่งจิงด้วยซ้ำไปข้อความที่เข้าเขียนมาไม่มีอะไรที่จะทำให้ใครเสียหาย ให้พวกที่มันเลวๆกลัวกันซะบ้าง
ไปเรียนภาษาไทยให้ดีกว่านี้ แล้วค่อยมาให้ความเห็นใหม่
ตอบลบผมมักจะเจอกระทู้ที่ชอบบิดเบือนความจริงเกี่ยวกับพุทธศาสนา บิดเบือนข้อมูลทีละเล็กทีละน้อย ให้กับผู้เสพข้อมูล ซึ่งปรากฏให้เห็นอยู่มากในปัจจุบัน ทำให้ผมสงสัยว่าอาจจะเป็นเจตนาที่ไม่ดีของมารนอกศาสนา สมัยนี้มีเยอะนะครับ ขอให้ใช้วิจารณญาณให้มาก ใช้กาลามสูตรให้เป็นประโยชน์ ผมว่าควรดูที่เจตนาดีกว่า ดูไม่ยากหรอกครับว่ามีเจตนาดีหรือไม่ดี ดูว่าข้อมูลจริงหรือไม่จริง ดูให้กว้างๆ อย่าเพิ่งด่วนสรุป และขอย้ำว่า สาระสำคัญทางศาสนาพุทธนั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ต้องอ้างอิงพระไตรปิฎกเสมอ
ตอบลบตกลงที่ผมเขียนไป มันถูกหรือผิดอย่างไร
ตอบลบ23-1-2558
ตอบลบผมเห็นด้วย คนไทย "โง่แต่จำแม่น" ผมว่านักการเมืองไทยโง่ที่สุด แต่ผมสงสัยที่ท่านเขียน "เพราะมีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญหลายประการ" นี้น่ะหมายความว่าจะมีอาจารย์ผู้รู้แก้ไขเปลี่ยนแปลงพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฏกหรืออย่างไรครับ
พระไตรปิฎกถูกต้องดีแล้ว แต่ปัญหามันเกิดจากการตีความ พวกเชื่อวิทยาศาสตร์ พวกไม่รู้จริง "ตีความ" พระไตรปิฎกผิด
ตอบลบมีการค้นพบวิชาที่ไม่มีใครปฏิบัติได้แล้ว และมีการนำมาปฏิบัติต่อ
มีการปฏิบัติธรรมที่ "สูงขึ้น" สามารถนำมาแก้ไขปัญหาของคน ของสังคมได้อย่างดี
ไม่ควรปลงใจเชื่อแม้บุคคลนั้นจะเป็นอาจารย์ของเรา ไม่ควรปลงใจเชื่อแม้เข้าใด้กับความคิดเดิมของเรา
ตอบลบคำว่าพุทธศาสนาคุ้มครองคนผมว่าไม่จริง คนที่เชื่อและนำไปปฏิบัติต่างหากจะทำให้โลกหน้าอยู่ อย่างเช่นสังคมหนึ่งมี10คน ถ้าหากไม่ปฏิบัติดีแล้วมีแต่คนเห็นแก่ตัวสังคมนั้นย้อมไม่มีสุข แต่อีกยังคมหนึ่งนำหลังไปปฏิบัติ ทำตาม มีการเกลื้อหนุนกันสังคมนั้นย้อมมีสุข ความคิดส่วนตัวของผมนะ ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีแต่อยู่ที่คนจะเลือกทำดีไหม 😁
ตอบลบ